เมืองพะเยา
เมืองพะเยาเป็นเมืองเก่าที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งก่อน พ.ศ. ๑๘๓๙ ตามเอกสารตำนานต่างๆ๖ เรียกชื่อว่า ภูกามยาว เรื่องราวของเมืองนี้ก็เช่นเดียวกับหริภุญไชย สามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลต่างๆ ได้แก่ เอกสารประเภทตำนาน เป็นต้นว่า ตำนานพะเยา ฉบับวัดศรีโคมคำ ตำนานเมืองพะเยา ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ประชุมพงศาวดารภาค ๖๑ ข้อมูลจากศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่สอง ปรากฏชื่อเมืองพะเยาด้วยดังข้อความว่า
“ … เมืองใต้ออกพ่อขุนนำถุม เบื้องตะวันออกเถิง … เบื้องหัวนอนเถิงลุนคา ขุนคา ขุนด่าน … เบื้องในหรดีถึงฉอด เวียงเหล็ก … เบื้องตะวันตกเถิง … ลำพูน … บู .. เบื้องพายัพถึงเชียงแสนและพะเยา … ลาว … ๗”
ข้อความในจารึกแสดงว่ามีเมืองพะเยาก่อน พ.ศ. ๑๘๓๙ ตามตำนานเมืองพะเยา เขียนว่าเมืองนี้สร้างขึ้นโดยพ่อขุนจอมธรรม ซึ่งพระองค์ได้เป็นราชบุตรของพ่อขุนลาวเงินหรือขุนเงินแห่งเมืองเงินยางเชียงแสน พ่อขุนจอมธรรมได้อพยพประชาชนมาสร้างเมืองพะเยา และมีเชื้อสายของพระองค์ปกครองสืบมา กษัตริย์พระองค์สำคัญอีกพระองค์หนึ่งของพะเยาเป็นที่รู้จักของปัจจุบันดี คือ พระยา งำเมือง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าพระองค์เป็นพระสหายของพระยามังราย ได้ทรงมาร่วมสร้างเมืองเชียงใหม่ด้วย
นอกจากพระยางำเมืองแล้ว ตามตำนานต่างๆ ได้เล่าว่า พระยาเจือง หรือขุนเจือง ผู้นำที่พะเยามีความสามารถมาก พระองค์มีพระชนมายุระหว่าง พ.ศ. ๑๖๒๕ - ๑๗๐๕ โดยพระยาเจืองเป็นกษัตริย์พะเยา ในสมัยของพระองค์ ดินแดนล้านนาไทยได้ขยายออกไปอย่างกว้างขวางถึงสิบสองพันนา เวียตนาม (แกว) ล้านช้าง๘ สมัยของพระองค์เป็นสมัยสำคัญอีกสมัยหนึ่งของล้านนาไทย อนึ่งจากการศึกษาค้นคว้าทางด้านโบราณคดีที่เมืองพะเยาของ ร.ศ.ศรีศักดิ์ ได้พบเครื่องมือหินและโลหะ คือ หัวขวานสำริดและผาลไถ ทำด้วยเหล็กกำหนดอายุไม่ได้ที่เมืองพะเยา สันนิษฐานบริเวณที่ราบลุ่มเชียงรายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโขง ได้พัฒนาเป็นสังคมบ้านเมืองก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๙ นอกจากนี้เมืองพะเยายังมีความเจริญทางศิลปกรรม ได้พบศิลปวัตถุจำนวนมากที่พะเยา เรียกว่า ศิลปสกุลช่างพะเยา๙ และได้พบศิลาจารึกเป็นจำนวนมากอีกด้วย
เมืองพะเยามีกษัตริย์ปกครองสืบมาต่อจากพระยาจอมธรรมหลายพระองค์จนถึงสมัย พระยาคำลือ ซึ่งขณะนั้นเชียงใหม่มีกษัตริย์ชื่อพระยาคำฟู ปกครองเชียงใหม่ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๖๖ - ๑๘๗๙ กษัตริย์ลำดับที่ ๕ พระยาคำฟูได้ร่วมมือกับพระยาเมืองน่านยกกองทัพไปตีพะเยาและยึดครองพะเยาได้ในปี พ.ศ. ๒๐๓๘ ซึ่งปรากฏข้อความในศิลาจารึกวัดลี แต่ในตำนานพะเยาเขียนว่า พระยา คำฟูยกทัพไป พ.ศ. ๑๘๘๑[1] อย่างไรก็ตาม สงครามครั้งนี้ ทำให้พะเยาเสียเอกราชตกเป็นเมืองในอาณาเขตของแคว้นล้านนาตั้งแต่นั้นมา
๖ ตำนานเมืองพะเยา, ฉบับหอสมุดแห่งชาติ (ยังไม่ได้พิมพ์เผยแพร่)
พระราชวิสุทธิ์โสภณ, ประวัติเมืองพะเยาและตำนานเมืองเชียงแสน, (พระนคร : รุ่งเรืองสาส์นการพิมพ์ ๒๕๒๕) หน้า ๒๘.
ประชุมพงศาวดารภาค ๖๑, พงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน, พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลตรีเจ้าราชบุตร (พระนคร : ชวนพิมพ์ ๒๕๑๖)
๗ ประเสริฐ ณ นคร “อ่านและตีความจารึกใหม่” อ้างในศรีศักดิ์ วัลลิโภดม, ข้อมูลใหม่ – ข้อคิดใหม่เกี่ยวกับเชียงแสนและพะเยา วารสารเมืองโบราณ ๗ (๒ เมษายน – กรกฎาคม ๒๕๒๔)
๘ โปรดดูรายละเอียดใน ท้าวฮุ่งหรือเจือง มหาวิทยาลัยศิลปากร ๒๕๒๔ และดู “ตามพระยาเจือง” อรุณรัตน์ วิเชียรเขียว และศรีธน คำแปง ปริวรรต พิมพ์เผยแพร่โดย คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศูนย์วัฒนธรรมวิทยาลัยครูเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๒๕ (สนับสนุนการวิจัยโดยมูลนิธิ Toyota ประเทศญี่ปุ่น)
อานันท์ กาญจนพันธุ์ “ตำนานพระยาเจือง” :การศึกษาทางประวัติศาสตร์ วารสารมนุษยศาสตร์ ๑๑ (๑ กรกฎาคม – ธันวาคม ๒๕๒๕) หน้า ๑๑๙ - ๑๓๓)
จิตร ภูมิศักดิ์, ความเป็นมาไทยสยาม.
๙ น.ณ. ปากน้ำ “ศิลปสมัยเชียงแสนพะเยา” วารสารเมืองโบราณ ๗ (๒ เมษายน – กรกฎาคม ๒๕๒๔) หน้า ๔๙ - ๖๐.
[1] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๕๗ จารึกวัดลี จารึกว่าพะเยาเสียเอกราช จ.ศ. ๘๕๗ แต่ตำนานเมืองพะเยา เขียนว่าเสีย เอกราชนี้ จ.ศ. ๗๐๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น